บทความ
บทความ
PTE english
Pearson test of English (PTE) คือ การทดสอบทักษะทางภาษาอังกฤษที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากลจาก GMAC เริ่มจัดสอบขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2009 ซึ่ง PTE เป็นการสอบสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อต่างประเทศ หรือ การสมัครวีซ่าเพื่อไปทำงานหรือย้ายถิ่นฐานไปอยู่ต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย แคนาดา อังกฤษ และนิวซีแลนด์
PTE มีกี่แบบ ?
1. PTE Home : การทดสอบทักษะด้านการฟังและการพูด ซึ่งสามารถสมัครจองล่วงหน้าได้ภายใน 24 ชม. ผู้สอบจะต้องไปสอบที่ศูนย์สอบซึ่งเป็นการสอบออนไลน์ด้วยคอมพิวเตอร์ (Computer-based) ผลสอบจะทราบภายใน 48 ชม.หลังสอบเสร็จ เกณฑ์ในการประเมินทักษะความสามารถของ PTE Home แบ่งเป็น
1.1 Level A1 (Beginner) : ทักษะภาษาอังกฤษระดับเริ่มต้น ใช้ยื่นขอวีซ่าครอบครัว สำหรับผู้ที่จะไป
ทำงานที่ประเทศอังกฤษ
1.2 Level A2 : ต่ออายุ Visa ของคู่สมรส
1.3 Level 3 : ใช้ยื่นวีซ่าย้ายถิ่นฐานไปปักหลักในอังกฤษ
2. PTE Academic : การทดสอบที่เน้นไปในเชิงวิชาการ ซึ่งจัดสอบด้วยระบบคอมพิวเตอร์ผ่านออนไลน์ (AI เต็มรูปแบบ) ซึ่งแบ่งเป็น 2 ระดับ คือ
1. PTE Academic Exam : เป็นการสอบด้านการ พูด ฟัง อ่าน เขียน มีเวลาสอบ 3 ชม. ผลการทดสอบเป็นที่ยอมรับสำหรับมหาวิทยาลัยชั้นน้ำของโลกกว่า 1000 แห่ง เช่น Havard, Yale, INSEAD ผู้สมัครสอบต้องการผลคะแนนเพื่อใช้ศึกษาต่อ
2. PTE Academic UKVI : เป็นการทดสอบสำหรับผู้ที่จะยื่นวีซ่าทำงาน เรียนและการพักอาศัย UK ซึ่งผลทดสอบนี้ได้รับการยอมรับจากสถาบันการศึกษาที่อยู่ใน UK โดยตรง
PTE Test มี 3 ส่วน คือ
1. Speaking & Writing
2. Listening
3. Reading
มหาวิทยาลัยที่รับผลสอบ PTE ยกตัวอย่างเช่น
1. Aston University
2. Banger University
3. Birkbeck, University of London
4. Bournemouth University
5. Cardiff University
6. University of Birmingham
7. King College London
8. University of Liverpool
9. University of Leicester
10. Imperial College London
11. Royal Holloway, University of London
12. University of Brighton
13. University of Glasgow
14. University of Surrey
15. University of Westminister
*รายชื่อมหาวิทยาลัยอื่นๆที่รองรับ PTE ดูเลยคลิก
https://assets.ctfassets.net/yqwtwibiobs4/3K5AIbz8h8BTtZBI85UtmU/ef2b1e0841d6447baafa8526bbd60ef8/PTE_Academic_Recognized_Institutions_28th_Jan_2022.pdf
ความแตกต่างระหว่าง PTE กับ IELTS
1. IELTS เลือกสอบแบบกระดาษหรือคอมพิวเตอร์ก็ได้ และ พาร์ทพูด จะสอบกับคน ส่วน PTE จะเป็นการสอบด้วยคอมพิวเตอร์
2. IELTS ข้อสอบมี ฟัง พูด อ่านเขียน แยกเป็นพาร์ทชัดเจน ส่วน PTE แต่ละพาร์ทจะมีพาร์ทอื่นมาผสม เช่น พาร์ท speaking มีการนับคะแนน Listening เข้าไปด้วย พาร์ท Writing มีนับ Listening ด้วย
3. IELTS พาร์ทฟัง จะเป็นการฟังและตอบคำถาม ส่วน PTE จะเป็นการฟังและให้พูดสรุปกับคอมพิวเตอร์
4. IELTS พาร์ทการอ่าน เนื้อหาสอบไม่ได้แตกต่างจาก PTE มากนัก จะต่างกันคือการนับคะแนน โดย PTEจะนับคะแนนพาร์ทนี้น้อยกว่าส่วนอื่นๆ
5. IELTS พาร์ทการเขียน จะเน้นเรื่องกราฟ หรือการเขียนจดหมาย (email) ส่วน PTE จะเน้นเขียนสรุปจากสิ่งที่ได้อ่าน (สามารถคัดลอกประโยคใน text ที่สำคัญมาได้) และเนื้อหาสอบมีแบบ agree or disagree ด้วย
6. การนับคะแนน : IELTS คะแนนทุกข้อเท่ากัน ส่วน PTE จะต่าง เช่น พูด 2 คะแนน กากบาท 1 คะแนน
|
PTE score range |
IELTS Band |
|
86+ 83-85 79-82 73-78 65-72 59-64 51-58 43-50 35-42 30-34 |
9.0 8.5 8.0 7.5 7.0 6.5 6.0 5.5 5.0 4.5 |
ข้อดีของการสอบ PTE
1. ศูนย์สอบมีหลายประเทศ
2. ใช้เวลารอผลไม่นาน (2 วันหลังจากสอบเสร็จ)
3. มีข้อสอบให้ทดลองทำฟรี
ค่าสมัครสอบ PTE : ประมาณ 6,200 บาท (180 ดอลลาร์) ส่วนสำหรับคนที่จองช้า จะเป็น 7,750 บาท (225 ดอลลาร์)
ศูนย์สอบ PTE ในประเทศไทย
กรุงเทพ : Bangkok Business Building ชั้น 10 (BTS อโศก หรือ MRT สุขุมวิท)
การสมัครสอบ
1. ลงทะเบียนที่เว็บไซต์ perasonpte.com
2. กรอกรายละเอียด
3. เลือกศูนย์สอบ วันและเวลาสอบ (ประเทศไทย มีแค่ศูนย์สอบในกรุงเทพ)
4. ชำระค่าธรรมเนียมการสอบ
5. ปริ้นเอกสารไปยื่นในวันสอบได้เลย
ผลสอบ PTE ใช้ได้กี่ปี : 2 ปี นับจากวันประกาศผลสอบ
อ้างอิง :
https://gentstudyabroad.com/about-pte-test/#:~:text=PTE คือ การสอบวัดผล,ในระบบออนไลน์ได้ด้วย
https://www.siuk-thailand.com/study-guide/what-is-pearson-test-english/
https://www.soledu.net/th/pte-ielts/
