ล้วงลึก ‘SAT Subject Tests’ ประตูสำคัญสู่การสอบติดคณะ INTER ของมหาลัยในไทย
น้อง ๆ หลายคนที่ใฝ่ฝันอยากเข้าคณะอินเตอร์ หรือไปเรียนต่อต่างประเทศ ต้องรู้จักการสอบ ‘SAT’ หรือเคยได้ยินผ่านหูกันมาบ้างแล้วแน่นอน เพราะ SAT นั้นเป็นข้อสอบมาตรฐานที่มีความสำคัญพอ ๆ กับ GAT PAT หรือวิชาสามัญ และก็ใช้ในหลายมหาวิทยาลัยเลยทีเดียว
ข้อสอบ SAT จะมีทั้ง SAT Reasoning Test (SAT แบบปกติ) และ SAT Subject Tests ทำให้น้อง ๆ หลายคนอาจจะสงสัยว่าต่างกันอย่างไร และควรสอบแบบไหนดี วันนี้พี่ ๆ เลยจะพาทุกคนไปล้วงลึกเรื่องการสอบ ‘SAT Subject Tests’ กัน เพื่อให้น้อง ๆ ศึกษา และเตรียมตัวกันได้ถูก พร้อมแล้วก็ไปดูกันเลย!
SAT คือ อะไร ?
SAT หรือ SAT I คือ ข้อสอบมาตรฐานที่นักเรียนระดับมัธยมปลายส่วนใหญ่สอบเพื่อยื่นเข้ามหาวิทยาลัย (คณะ Inter) หรือ ใช้เพื่อเรียนต่อมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ ซึ่งข้อสอบ SAT มีคะแนนเต็ม 1,600 คะแนน แบ่งออกเป็น 2 พาร์ท ด้วยกัน คือ Math และ Verbal (แต่ละพาร์ทคะแนนเต็ม 800)
SAT Subjecst Tests คือ?
SAT Subject Tests หรือ SAT II เป็นข้อสอบเฉพาะทางที่ใช้ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในคณะต่าง ๆ (วัดความสามารถเชิงลึกเฉพาะด้าน) โดยเนื้อหาข้อสอบจะอยู่ที่ระดับมัธยมปลาย หรือ High School แต่ SAT Subjecst Tests จะยากกว่า SAT ปกติ
SAT Subject Tests มีวิชาสอบทั้งหมด 20 รายวิชา ดังนี้
-Math Level 1
-Math Level 2
-Biology E/M
-Chemistry
-Physics
-U.S. History
-World History
-Spanish
-Spanish with Listening
-French
-French with Listening
-Chinese with Listening
-Italian
-German
-German with Listening
-Modern Hebrew
-Latin
-Japanese with Listening
-Korean with Listening
ในแต่ละวิชา จะมีเวลาสอบทั้งหมด 60 นาที หรือ 1 ชั่วโมง ซึ่งแต่ละวิชาจะมีจำนวนข้อสอบไม่เท่ากัน ส่วนคะแนนเต็มจะอยู่ที่ 200-800 คะแนน
SAT Subject Tests ต่างจาก SAT ปกติ อย่างไร?
SAT Reasoning หรือ SAT ปกติ จะวัดความถนัดในวิชาเลข และภาษาอังกฤษ เพื่อทดสอบไหวพริบว่าเรามีทักษะที่จะไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยเพียงพอหรือไม่ ส่วน SAT Subject Tests จะวัดความถนัดรายวิชาแบบเจาะลึก ทำให้ข้อสอบอาจจะมีความเฉพาะเจาะจงมากกว่า
SAT II อาจจะคล้าย ๆ PAT ที่แยกเป็นความถนัดเฉพาะทางแต่ละวิชา และมีเนื้อหาต่างกันออกไป โดยน้อง ๆ สามารถเข้าไปดูเนื้อหาที่ออกสอบแบบละเอียดของแต่ละวิชาได้ที่เว็บไซต์ของ College Board ได้เลย https://collegereadiness.collegeboard.org/sat-subject-tests/subjects
ส่วนข้อควรระวังก็คือ SAT ปกติ และ SAT Subject Tests จะไม่สามารถสอบในวันเดียวกันได้ และในแต่ละวันจะสอบได้ไม่เกิน 3 วิชา เท่านั้น!
เพราะฉะนั้น น้อง ๆ ที่ต้องการเข้าศึกษาในคณะอินเตอร์ หรือหลักสูตรนานาชาติ ต้องดูรายละเอียดว่าคณะที่ตัวเองจะสอบ ใช้คะแนน SAT แบบไหนบ้าง จะได้เตรียมตัวได้ถูกนั่นเอง
SAT Subject Tests ในไทย นิยมสอบตัวไหนบ้าง?
ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในประเทศไทย มักจะใช้คะแนนในกลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ (Mathematics) คือ Math Level 2 และกลุ่มวิทยาศาสตร์ (Science) คือ วิชาเคมี (Chemistry) ฟิสิกส์ (Physics) และชีววิทยา (Biology-M) ในการพิจารณาเข้าศึกษาคณะอินเตอร์ หรือหลักสูตรนานาชาติ
ส่วนใหญ่คณะที่ใช้คะแนนนี้ ก็จะมีวิศวกรรมศาสตร์, วิทยาศาสตร์, แพทยศาสตร์ และทันตแพทยศาสตร์ เป็นต้น
ตัวอย่างคณะ / มหาวิทยาลัย ที่ใช้คะแนน SAT Subject Test และ SAT (ข้อมูลอ้างอิงปี 2564)
ผลสอบความสามารถทางคณิตศาสตร
-SAT Math ≥ 620 และ SAT Math Level 2 ≥ 600
ผลสอบความสามารถทางวิทยาศาสตร์
- SAT subject test (Physics และ Chemistry ) แต่ละวิชาต้อง ≥ 800
ที่มา : http://www.ise.eng.chula.ac.th/document/Puay/Dec2020/admission/ประกาศรับสมัครวิศวฯ_ปี 64_(รอบ_Early_Admission)_ท่านอธิการลงนาม_4-12-20.pdf
ผลสอบความสามารถทางคณิตศาสตร์
-SAT II (Math Level 2) ≥ 500
ที่มา : http://www.bbtech.sc.chula.ac.th/wp-content/uploads/2019/05/BBTech_Early-Admission-2021.pdf
ผลสอบความสามารถทางภาษาอังกฤษ
-SAT VERBAL ≥ 450
ผลสอบความสามารถทางคณิตศาสตร์
-SAT (Math Level 2) ≥ 700 คะแนน หรือ SAT Math ≥ 500
ผลสอบความสามารถทางคณิตศาสตร์
-SAT (Math Level 2) ไม่มีคะแนนขั้นต่ำ
ผลสอบความสามารถทางวิทยาศาสตร์
-SAT subject test (Physics หรือ Chemistry) ไม่มีคะแนนขั้นต่ำ
ที่มา : https://tep.engr.tu.ac.th/admission/overseasapplicants
-SAT subject test (Math Level 2) หรือ (Physics) ≥ 650
-SAT subject test (Biology-M) ≥ 650
-SAT subject test (Chemistry) ≥ 650
ที่มา : https://dt.mahidol.ac.th/en/mahidol-international-dental-school/apply-to-mids/
รายละเอียด และปฏิทินการสอบ
การสอบ SAT Subject Tests ในประเทศไทยมีทั้งหมด 5 ครั้ง/ปี ในช่วงเดือน พฤษภาคม, มิถุนายน, ตุลาคม, พฤศจิกายน และธันวาคม โดยคะแนนจะมีอายุ 2 ปี
ข่าวอัปเดตล่าสุด ก็คือ มหาวิทยาลัย ในสหรัฐอเมริกาจะไม่มีการสอบ SAT Subject Tests อีกต่อไปแล้ว (อ้างอิงข้อมูลจาก College board blog January 19, 2021) ส่วนการทดสอบของประเทศไทยในปีนี้ เหลือรอบสอบ 2 รอบ คือ 8 พฤษภาคม 2564 และ 5 มิถุนายน 2564 และยังไม่มีประกาศเกี่ยวกับการสอบในปีหน้าออกมา
- ไม่จำกัดอายุผู้สอบ
-ค่าลงทะเบียนต่อการสอบ 1 ครั้ง : $26
-ค่าสมัครสอบ (ผู้ที่อยู่นอกสหรัฐอเมริกา) : $53
-ค่าสอบแต่ละวิชา : วิชาละ $22
ศูนย์สอบ SAT กรุงเทพฯ และปริมณฑล
ศูนย์สอบSAT ภาคกลางและตะวันออก
ศูนย์สอบ SAT ภาคเหนือ
ศูนย์สอบ SAT ภาคใต้
จากความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น น้อง ๆ ก็ต้องรอติดตามข่าวสารเรื่อง SAT Subject Tests อย่างใกล้ชิด ว่าจะส่งผลกระทบอย่างไรกับ Requirement ของมหาวิทยาลัยในประเทศไทยหรือไม่ ซึ่งหากมีประกาศออกมาเมื่อไหร่ พี่ ๆ จะรีบมาอัปเดตให้ฟังอีกครั้งอย่างแน่นอน!