GMAT คือ อะไร ?
GMAT ย่อมาจาก Graduate Management Admission Test คือ ข้อสอบที่ใช้วัดความสามารถของผู้ที่สนใจเรียนต่อระดับบัณฑิตศึกษา (ปริญญาโท/เอก) ด้านบริหารธุรกิจ (Business school) ในประเทศอเมริกา หรือ แคนาดา เช่น MBA หรือ M.S. Finance
การสอบเป็นการสอบในรูปแบบ Computer based (สอบกับคอมพิวเตอร์)
ข้อสอบ GMAT คะแนนเต็ม 800 คะแนน แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ
1. Analytical Writing Assessment : ข้อสอบการเขียนเชิงวิเคราะห์ (argument esaay) มี 1 ข้อ ให้เวลา 30 นาที ช่วงคะแนน 0.0-6.0 โดยตัวข้อสอบ ผู้สอบจะต้องวิเคราะห์ว่า argument ที่ให้มาสมเหตุสมผลแค่ไหน และจะต้องให้ข้อสรุปว่าจะสนับสนุน argument หรือ โต้แย้ง โดยจะต้องมีการให้เหตุผล(ยกตัวอย่าง) ซึ่งจะต้องให้เหตุผลโดยอิงจากข้อมูลในโจทย์ (เขียนความคิดของตัวเองไม่ได้ not your own ideas)
2. Integrated Reasoning : การให้เหตุผลเชิงบูรณาการ มี 12 ข้อ (คะแนน 1-8) ให้เวลา 30 นาที
ข้อสอบโดยจะแบ่งเป็น 4 ส่วน Multi-Source Reasoning, Table Analysis, Graphics Interpretation, Two-part Analysis ซึ่งในพาร์ทนี้มีหลายข้อที่ต้องการมากกว่า 1 คำตอบ
ข้อสอบบางข้อจะต้อง ให้ quantitative reasoning หรือ verbal reasoning อย่างใดอย่างหนึ่ง
หรือต้องใช้ผสมกัน 2 อย่าง ตัวข้อสอบถูกออกแบบมาเพื่อวัดความสามารถในการประยุกต์ข้อมูล
เพื่อใช้ในการแก้โจทย์ที่ซับซ้อน
3. Quantitative Reasoning : การให้เหตุผลเชิงปริมาณ (ข้อสอบทางคณิตศาสตร์) มีทั้งหมด 37 ข้อ (ช่วงคะแนน 6-51) ให้เวลา 62 นาที โดย ข้อสอบแบ่งย่อยอีกเป็น 2 ส่วน คือ Problem Solving และ Data Sufficiency ซึ่งทั้ง 2 ส่วน จะต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับ เลขคณิต พีชคณิต และเรขาคณิต ในการแปลผลและให้เหตุผล (ไม่ใช้ข้อสอบที่วัดทักษะทางคณิตศาสตร์ และในพาร์ทนี้ห้ามใช้เครื่องคิดเลข)
- Problem Solving (24 ข้อ) : วัด logic และ การคิดเชิงวิเคราะห์ (analytical thinking)
- Data Sufficiency (13 ข้อ) : วัดการวิเคราะห์โจทย์ว่าข้อมูลที่ให้มาเพียงพอต่อการตอบคำถาม
หรือไม่ โจทย์จะให้คำถามและข้อมูลอีก 2 บรรทัด (two statements) และตัวเลือก โดยจะต้องเลือกว่าข้อมูลที่ให้มาต้องใช้ข้อมูลใดข้อมูลหนึ่งในการตอบคำถามก็เพียงพอแล้ว หรือ ต้องใช้ 2 อย่างร่วมกัน ถึงจะเพียงพอ หรือ ข้อมูลแรกเพียงพอแต่ข้อมูลที่2 ไม่พอในการตอบคำถาม หรือทั้งคู่ ไม่เพียงพอในการตอบคำถาม
4. Verbal Reasoning : ข้อสอบมี 41 ข้อ (ช่วงคะแนน 6-51) ให้เวลา 65 นาที โดยตัวคำถามมี 3
ส่วน คือ Reading Comprehension, Critical thinking, Sentences Correction
- ความเข้าใจในการอ่าน (Reading Comprehension) : วัดความสามารถในการอ่านและความเข้าใจ
บทความ พวกทักษะการอ่าน เช่น การจับใจความสำคัญ (main idea) หาใจความสนับสนุน
(supporting idea) ข้อสรุป (inference) การนำไปใช้ (application) ฯลฯ ผู้สอบจะต้องแปลผล เขียน
ข้อสรุปจากบทความ โดยข้อสอบส่วนนี้มี 14 ข้อ
- การให้เหตุผลเชิงวิพากษ์ (Critical thinking) : วัดกาสร้าง การประเมินข้อโต้แย้ง ลักษณะโจทย์จะมี
บทความสั้นๆ ไม่เกิน 100 words มาให้ และต้องเลือกตอบว่าจะสนับสนุนหรือปฏิเสธข้อโต้แย้งที่ให้มา
มีจำนวน 14 ข้อ
- การแก้ไขประโยค (Sentences Correction): วัดความชำนาญทางภาษาอังกฤษ โดยจะต้องแก้ไข
ประโยคให้ถูกต้องตามหลักโครงสร้างและแกรมมา ข้อสอบจำนวนมี 13 ข้อ
สรุปโครงสร้างข้อสอบ GMAT
ข้อสอบ GMAT (4 ส่วน) |
เวลา |
จำนวนข้อ |
ช่วงคะแนน |
Analytical Writing Assessment |
30 นาที |
1 |
0-6 |
Integrated Reasoning |
30 นาที |
12 |
1-8 |
Quantitative Reasoning |
62 นาที |
37 |
6-51 |
Verbal Reasoning |
65 นาที |
41 |
6-51 |
Total |
3 ชม. 7 นาที |
80 |
200-800 |
รูปแบบข้อสอบ : เป็นการสอบผ่านคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นข้อสอบแบบ Computer-Adaptive คือ ข้อสอบจะปรับความยากตามความสามารถของผู้สอบ คือ จะมีระดับความยากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ (คะแนนมากขึ้น) เมื่อทำข้อสอบชุดแรกถูกต้องและได้ทำข้อถัดไป แต่ถ้าหากตอบผิด ข้อสอบถัดไปจะลดระดับความยากลง (ง่ายขึ้น)ไปด้วย แต่คะแนนข้อนั้นจะลดลงเช่นกัน ที่สำคัญหากตอบไปแล้วไม่สามารถย้อนกลับมาทวนและแก้ใหม่ได้
คะแนน GMAT มีความหมายอย่างไร
- คะแนน 550 ขึ้นไป : Average
- คะแนน 700 ขึ้นไป : Good
- คะแนน 740 ขึ้นไป : Excellent
ประโยชน์ของ GMAT
ใช้ยื่นเพื่อศึกษาต่อด้านบริหารธุรกิจ ระดับป.โท/เอก เช่น MBA ในอเมริกา หรือแคนาดาได้
ค่าสมัครสอบ GMAT : 250$ (≈ 7,500 บาท+ ) ณ ศูนย์สอบ / 300$ (9,000 บาท +) Online ที่บ้าน
อายุผลคะแนนสอบ : 5 ปี
รอบการสอบ : สอบได้ตลอดทั้งปี มีทุกเดือน
ศูนย์สอบ GMAT : ในประเทศไทยมี 2 แห่ง คือ
การสมัครสอบ : สมัครผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น https://www.mba.com โดยแต่ละเดือนจะสมัครสอบได้เพียง 1 ครั้ง หลังสอบแล้วจะสอบใหม่เมื่อครบ 16 วัน ตามปฏิทิน สมัครสอบได้สูงสุด 5 ครั้งต่อปี และสอบได้ไม่เกิน 8 ครั้ง ตลอดชีพ
ตารางคะแนน GMAT ที่ใช้ยื่นเข้า Top Business Schools
Business School |
คะแนนเฉลี่ย GMAT ที่รับเข้าศึกษา |
University of Pennsylvania (Wharton) |
733 |
Harvard University (MA) |
730 |
Yale University (CT) |
725 |
Stanford University (CA) |
737 |
Columbia University (NY) |
729 |
University of California-Berkeley (Haas) |
730 |
University of Chicago (Booth) |
730 |
Northwestern University (Kellogg) (IL) |
729 |
Massachusetts Institute of Technology (Sloan) |
730 |
Dartmouth College (Tuck) (NH) |
726 |
เปรียบเทียบการสอบ GMAT กับ GRE
GRE คือ ข้อสอบวัดระดับเพื่อใช้เข้าศึกษาต่อในระดับบัณฑิตศึกษา (ป.โท/เอก) ในมหาวิทยาลัยชั้นนำ ทั่วไป สามารถใช้ยื่น MBA ได้เหมือนกัน แต่เนื้อหาข้อสอบจะเน้นไปทาง ‘Verbal’ หรือ ความถนัดทางภาษาอังกฤษ มากกว่า เมื่อเทียบกับ GMAT และเนื้อหาข้อสอบจะแบ่งเป็น 3 พาร์ท คือ Analytical Writing Assessment Quantitative Reasoning และ Verbal Reasoning
|
GMAT |
GRE |
เนื้อหาการสอบ |
· · · · |
· · · · · |
เวลาที่ให้ |
3 ชม. 7 นาที |
3 ชม. 45 นาที |
รูปแบบการสอบ |
สอบ Computer-Adaptive test (ปรับระดับความยากง่าย ตามชุดข้อสอบ คำถามจะยากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าตอบถูกแต่จะง่ายขึ้น ถ้าตอบผิด)
|
ทั้ง paper กับ Computer-Adaptive mode (ปรับระดับความยากง่ายตาม Section โดยในแต่ละ section มีหลายข้อ แต่ละข้อมีความยากเท่ากัน ไม่ได้เพิ่มหรือลดแบบ GMAT และสามารถกลับมาทบทวนหรือแก้ไขใหม่ได้ใน section นั้นๆ ก่อนจะเริ่มทำ section ถัดไป) |
ช่วงคะแนน |
200-800 คะแนน · · · · |
130-170 คะแนน · · · |
อายุคะแนนสอบ |
5 ปี
|
5 ปี |
ค่าสมัครสอบ |
275$ (ณ ศูนย์สอบ) 300 $ (สอบ Online ที่บ้าน) |
205$ |
สอบใหม่ได้เมื่อ |
ทุก 16 วันตาม ปฏิทิน (สอบได้สูงสุด 5 ครั้งใน 1 ปี) และ ได้ไม่เกิน 8 ครั้งตลอดชีพ |
ทุก 21 วัน (สอบได้สูงสุด 5 ครั้งต่อปี |
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
https://www.aims.co.th/gmat-คืออะไร-ทำไมต้องสอบ/
https://www.mba.com/exams/gmat-exam/about/structure-and-content
https://www.examhunter.net/gmat-contact/
https://edusmith.in.th/gmat-หรอ-gre-แตกตางกนอยางไร/
https://www.shiksha.com/studyabroad/exams/gmat
https://www.ets.org/gre/test-takers/general-test/prepare/test-structure.html
สำหรับน้องๆ ที่สนใจเรียนต่อ มีแพลนจะสมัครสอบ GMAT จะแนะนำวางแผนการสอบให้ดีก่อนนะคะ ควรเตรียมตัวล่วงหน้า 3-6 เดือน เพราะค่าสอบไม่ใช่เล่นๆ ประมาณ 7500 บาท+ การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนจึงสำคัญ เพื่อที่เราจะได้วัดระดับภาษาและความสามารถของเราจริงๆว่าอยู่ในระดับไหน พร้อมแค่ไหน และถ้าคะแนนยังไม่ถึงเกณฑ์มหาลัยที่ตั้งใจไว้ ต้องกลับมาทบทวน เน้นอะไรบ้าง
น้องๆ ที่กำลังมองหาติวเตอร์สอน GMAT ช่วยไกด์แนวทางและวางแผน รวมถึงสอนสรุปเนื้อหาที่ต้องใช้ เทคนิคการทำข้อสอบ อย่ารอช้านะคะ ทางศูนย์เรามีบริการจัดหาติวเตอร์ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นสอนพิเศษแบบนอกสถานที่ (Onsite) หรือ สอนแบบออนไลน์ ซึ่งในการสอนจะเป็นการสอนพิเศษแบบตัวต่อตัว (1:1) น้องๆสามารถเลือกพี่ติวเตอร์ได้ โดยทางเราจะมีประวัติผู้สอนให้ดูก่อน ซึ่งจะมีการคัดโปรไฟล์มาให้ก่อนด้วยค่ะ เพื่อให้น้องๆ ได้ติวเตอร์ที่เก่ง สอนได้จริง ให้ความรู้ได้ถูกต้อง หากสนใจสามารถติดต่อ LINE ID : @tutorbybarbellbu ได้เลยค่ะ ยินดีให้คำปรึกษานะคะ