ประสิทธิภาพของการเรียนรู้จากการนอนหลับที่เหมาะสม
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในปัจจุบันการเรียนและการแข่งขันในรั้วโรงเรียนมีอิทธิพลต่อนักเรียนอย่างมากโดยเฉพาะในวัยรุ่น หรือระดับมัธยมปลาย ซึ่งจะต้องเตรียมตัวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย ทำให้น้องๆ นักเรียนบางคนอาจมีความกดดันมากขึ้น เนื่องด้วยต้องทำทั้งเกรดในโรงเรียน และต้องอ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบเข้าตั้งแต่เนิ่นๆ ทำให้เด็กหลายๆ คนอาจนอนดึกกว่าเดิม หรือแทบจะนอนเช้าในแต่ละวันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวนั้น นำมาสู่ประสิทธิภาพการเรียนรู้ที่แย่ลงนั่นเอง
จากการข้อมูลของ The Centers for Disease Control and Prevention (CDC) หรือ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (2017) ได้แนะนำถึงจำนวนชั่วโมงในการนอนต่อวันของแต่ละวัย ดังนี้
• อายุ 6-12 ปี : ควรนอน 9- 12 ชม. ต่อ วัน
• อายุ 13-18 ปี : ควรนอน 8-10 ชม. ต่อ วัน
จะเห็นได้ว่า ระยะเวลาการนอนของเด็กม.ปลาย ที่เหมาะสม คือ 8-10 ชม.ต่อวัน ซึ่งจะเพียงพอต่อร่างกายในการทำกิจจกรรมต่างๆในวันถัดไป
การนอนหลับให้เพียงพอในแต่ละวันจะช่วยให้ร่างกายได้รับการฟื้นฟู และซ่อมแซม ทำให้ระบบการทำงานของร่ายกายทำงานได้อย่างเป็นปกติ ซึ่งจะมีผลให้ความจำดี มีประสิทธิภาพในการเรียนรู้ และการตัดสินใจต่างๆ ได้ดี เมื่อเทียบกับคนที่นอนไม่พอ หรือ นอนน้อย หรือนอนดึก แล้วตื่นเช้า การนอนดึก นอนไม่พอ โดยเฉพาะยิ่งทำต่อกันเป็นเวลานาน จะส่งผลเสียต่อความจำในระยะยาว ทำให้หลงๆ ลืมๆ จำอะไรไม่ค่อยได้ อีกทั้งการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เป็นไปได้ยากขึ้น การคิดหรือการเข้าใจ รวมถึงการตัดสินใจทำอะไรจ่าง ๆ จะช้าลง และยังส่งให้อารมณ์ไม่ค่อยดี ร่างกายอ่อนแอ มีภูมิคุ้มกันลดลง เจ็บป่วยง่ายขึ้น
ดังนั้น การจัดตารางในการนอนจึงเป็นสิ่งสำคัญ จึงควรตั้งเวลาเข้านอน และการตื่นนอนให้เหมือนกันในทุกๆวัน และควรเข้านอนไว นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ถึงแม้ว่าจะงานยุ่งแค่ไหน การบ้านจะเยอะก็ตาม น้องๆ ต้องตัดใจเข้านอนไว เพื่อหลีกเลี่ยงผลเสียที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และเพื่อให้สมองและร่างกายพร้อมรับรู้การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ซึ่งจะมีผลให้การเรียนดีขึ้น อีกทั้งทำให้ประสิทธิภาพในการจำ การทำข้อสอบดีขึ้นอีกด้วย
อ้างอิง : https://www.medicalnewstoday.com/articles/195851#in-children
https://www.dibukhospital.com/นอนอย่างไรให้เพียงพอ/
https://www.sleepfoundation.org/how-sleep-works/memory-and-sleep