ไขข้องสงสัย ? เกี่ยวกับ IGCSE ที่น้อง ๆ ที่จะสอบต้องรู้ !
IGCSE ย่อมาจาก International General Certificate of Secondary Educational คือ หลักสูตรการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจากประเทศอังกฤษ ที่โรงเรียนนานาชาติในไทยหลาย ๆ แห่งใช้สอบ โดยเป็นหลักสูตรที่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นสากล ซึ่งจะเทียบเท่ากับระดับชั้น ม.4 ในระบบการศึกษาไทย โดยจะใช้ระยะเวลาเรียน 2 ปี เหมาะสำหรับนักเรียนอายุ 14-16 พูดง่าย ๆ ก็คือ IGCSE เป็นการสอบเพื่อเทียบให้ได้วุฒิ ม.4 นั่นเอง ซึ่งหากน้อง ๆ จบหลักสูตรนี้แล้วจะสามารถศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นไปได้อย่าง A- level, IB ได้ ซึ่งจะสามารถนำผลคะแนนไปเทียบวุฒิ ม.6 หรือเป็นคะแนนยื่นสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้
สำหรับน้อง ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษาของโรงเรียนนานาชาติที่ใช้ระบบการเรียนการสอนแบบอังกฤษ (UK) ก็สามารถสมัครสอบ IGCSE ได้เช่นกัน โดยสามารถสมัครผ่าน British Council Thailand
หลักสูตร IGCSE มีประมาณ 70 วิชา โดยแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มวิชา ดังนี้
1. กลุ่มวิชาภาษาอังกฤษ (Language)
2. กลุ่มวิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ (Humanities & Social Science)
3. กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ (Science)
4. กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ (Mathematics)
5. กลุ่มวิชาทักษะวิชาชีพ (Creative, Technical and Vocational)
การสอบ IGCSE น้อง ๆ จะต้องเลือกสอบ 5 วิชาด้วยกัน เพื่อให้ได้ IGCSE Certificate โดยจะบังคับสอบ ESL และ Mathematics ที่เหลืออีก 3 วิชาให้เลือกเองได้
*ESL (English as a second language) ซึ่งเป็นข้อสอบวัดความสามารถทางภาษาอังกฤษทุกด้าน ได้แก่ ฟัง พูด อ่าน เขียน
ในการสอบ IGCSE บางวิชาจะแบ่งความยากของหลักสูตรออกเป็น 2 ระดับ (น้อง ๆ สามารถเลือก สอบระดับใดก็ได้ขึ้นกับความถนัด) คือ
1. Core (พื้นฐาน) : เนื้อหาและความรู้ที่จำเป็นต้องเรียน (ครอบคลุม)
2. Extended (ขั้นสูง) : ระดับ Core ที่เพิ่มเนื้อหาเข้าไปอีก 30-40 % ซึ่งส่วนที่เพิ่มเข้าไปจะเป็นการ
เรียนเนื้อหาเชิงลึก หรือเฉพาะ (ยากขึ้น) พูดง่าย ๆ ก็คือ เรียนเยอะกว่า ยากกว่า
ตัวอย่างวิชาที่แบ่งความยากเป็น 2 ระดับ เช่น Math ,Physics, English, Chemistry, Biology เป็นต้น
*สำหรับการสอบ IGCSE ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นไป น้อง ๆ จะต้องสอบ AS/A-Level อีก 3 วิชาด้วยกัน จึงจะสามารถนำผลคะแนนไปเทียบวุฒิ ม.6 เพื่อยื่นต่อศึกษาในระดับอุดมศึกษาได้
วิชา IGCSE ยอดนิยมที่นักเรียนเลือกสอบกัน เช่น Math, Biology, Chemistry, Physics, English, Psychology, History เป็นต้น
เกณฑ์ในการคิดเกรดของ IGCSE
IGCSE มีเกณฑ์การให้เกรดตั้งแต่ A* ไปถึง G (A*, A, B, C, D, E, F, G) และ U (Ungraded) โดยถ้าน้องๆ เลือกสอบระดับ Core จะมีโอกาสได้เกรดตั้งแต่ C,D,E,F,G โดย C เป็นเกรดสูงสุดที่มีโอกาสได้ในระดับนี้ ส่วนถ้าเป็น Extended เกรดจะมี A*,A, B, C, D และ E โดย A*เป็นเกรดสูงสุดในระดับ
และการที่น้อง ๆ จะสอบผ่านหลักสูตรได้ จะต้องสอบให้ผ่านอย่างน้อย 5 วิชา ด้วยเกรด C ขึ้นไป
ในการสอบ IGCSE จะมี Examination Board ซึ่งเป็นหน่วยที่กำหนดเนื้อหาในการเรียนและการออกข้อสอบ ได้แก่ Cambridge International Examination (CIE) , Pearson Edexcel , OxfordAQA โดยในประเทศไทย การจัดสอบ IGCSE ในโรงเรียนนานาชาติต่าง ๆ และการจัดสอบโดย British Council มักจะใช้ข้อสอบจาก CIE หรือ Cambridge มากที่สุด
ตารางสอบ IGCSE
การสอบ IGCSE จะมีจัดสอบ 2 รอบต่อปี โดยสำหรับ Cambridge IGCSE จะมีกำหนดการเปิดรับสมัครสอบและรอบสอบ ดังนี้
รอบสอบ |
สมัครสอบ |
วันสอบจริง |
รอบที่ 1 |
5 ก.ค. - 11 ส.ค. 2564 |
ต.ค. - พ.ย 2564 |
รอบที่ 2 |
12 ส.ค. - 17 ก.ย. 2564 |
ต.ค. - พ.ย 2564 |
อ้างอิงข้อมูล 2564: https://www.britishcouncil.or.th/exam/igcse/register/dates-fees
ค่าสมัครสอบ (อ้างอิง British council)
7,000-11,050 บาท ต่อวิชา (แล้วแต่วิชา) โดยหากสมัครสอบล่าช้าจะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการสอบเพิ่ม (อ้างอิงข้อมูล 2564 : https://www.britishcouncil.or.th/exam/igcse/register/dates-fees)
ศูนย์สมัครสอบ IGCSE ในประเทศไทย
1. โรงเรียนนานาชาติที่ใช้ระบบอังกฤษ ที่น้องๆ ศึกษาอยู่
2. Harrow International School
3. British Council Thailand อยู่ที่สยามสแควร์ (ตึกศูนย์หนังสือจุฬาฯ) ทั้งนี้ปัจจุบันใช้สนามสอบ
ที่ชั้น 8 อาคารเวฟเพลส ถนนเพลินจิต